ขายอะไรดี 10 ของกิน มือใหม่ก็ขายได้ ลงทุนแค่หลักพัน
![ขายอะไรดี 10 ของกิน มือใหม่ก็ขายได้ ลงทุนแค่หลักพัน](/asp-bin/pic_Topic/000000359_top_1_.jpg)
สภาพเศรษฐกิจอย่างนี้ ไหนจะโควิด-19 แล้วไหนจะเหตุบ้านการเมือง ส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ การทำงาน และรายได้ของหลาย ๆ คน สิ่งที่ทำได้ คือ ‘มีสติ’ และใช้จ่ายอย่าง ‘ประหยัด’ และมองหาช่องทางสร้างรายได้เสริมจากการทำงานประจำที่ทำอยู่ เริ่มต้นง่าย ๆ ได้แก่ การขายของออนไลน์ หรือ การขายของตามตลาดนัด หลังเลิกงาน หรือในวันหยุด เป็นต้น
จัดไป! วันนี้ ‘เถ้าแก่คาเฟ่’ มีเรื่องราวดี ๆ เกี่ยวกับการสร้างอาชีพ สร้างรายได้เสริม มาฝากเพื่อน ๆ จากการขายของในตลาดนัด สำหรับคนที่อยากมีรายได้เพิ่ม แต่มีเงินลงทุนน้อย ไม่ต้องกังวล มาลองเปิดประสบการณ์ขายของในตลาดนัด โดยเน้นขายอาหาร เครื่องดื่ม หรือของว่างทานเล่น เพราะลงทุนน้อย กลุ่มลูกค้าซื้อง่าย คนขาย ๆ คล่อง และได้เงินกลับคืนมาอย่างรวดเร็ว
โดยอาชีพขายของตลาดนัดที่จะแนะนำเพื่อน ๆ ต่อไปนี้ รับประกันว่า ลงทุนน้อยแค่หลักพันบาทเท่านั้น (ของกินบางอย่างลงทุนแค่ 2-3 พันบาท) และขายดีแน่นอน โดยเพื่อน ๆ อาจจะมีวิธีการเรียนรู้สูตรได้จาก Youtube โดยไม่ต้องไปเสียเงินแพง ๆ เรียนรู้จากที่อื่น สิ่งสำคัญ คือ ต้องทดลองทำ ลองผิดลองถูก ทำชิมทำกินดูก่อน ถ้ารสชาติอร่อย โอเคแล้วก็ทดลองเอาไปทำขายที่ตลาดนัดใกล้บ้านได้เลย โดยคนไม่เคยขายของกินก็ทำได้ ลองทำดู ไม่ลองไม่รู้ ไม่เลือกงาน..ไม่ยากจน!
ขายอะไรดี? 10 ของกินยอดนิยม ขายดีทุกที่
![ขายยำ](https://www.taokaecafe.com/asp-bin/images/1604383295_เธขเธณ.jpg)
1. ขายยำ
เป็นอาหารขายดีในตลาดนัดที่ไม่ควรมองข้าม เพราะขายกลุ่มคนเดินตลาดนัดได้ทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะสุภาพสตรี ที่ชอบทานยำรสแซ่บ ๆ อีกทั้ง สามารถต่อยอดทำขายได้หลายเมนู เช่น ยำรวมมิตร ยำวุ้นเส้น ยำหมูยอ ยำปลาแซลมอน ยำทะเล และอีกหลายสารพัดยำ โดยขายเริ่มต้นถุงละ 30-50 บาท หักต้นทุนก็ยังเหลือกำไรครึ่งต่อครึ่ง ซึ่งเป็นเมนูซื้อง่ายขายคล่อง
ส่วนต้นทุน หลัก ๆ คือ ซื้อวัตถุดิบของสด เช่น กุ้ง, หมึก, ปูอัด, หมูยอ, ไส้กรอก, วุ้นเส้น ฯลฯ ส่วนผักสดและน้ำยำ ขอให้ของสดใหม่เอาไว้ก่อน โดยน้ำยำลองหัดทำตามสูตรในยูทูบแล้วมาประยุกต์สูตรเองได้เลย
เบ็ดเสร็จ ขายยำในตลาดนัด ใช้ทุนแค่หลักพันบาท ส่วนอุปกรณ์และวัตถุดิบหลักที่ต้องเตรียม เช่น
• โต๊ะ , ป้ายร้าน ตกแต่งพอสวยงาม
• ถังแก๊ส และพวกอุปกรณ์คลุกปรุงยำ เช่น ชาม กะละมัง ช้อน ทัพพี โหลน้ำยำ ถุงร้อน ช้อนส้อมพลาสติก ฯลฯ
• ของสดไว้ปรุงยำทำขายลูกค้า
• ลังโฟม, ถังน้ำแข็ง (เอาไว้แช่ของให้สดใหม่ตลอด)
![ขายข้าวเหนียวไก่ย่าง](https://www.taokaecafe.com/asp-bin/images/1604383314_ไก่ทอด.jpg)
2. ขายข้าวเหนียวไก่ย่าง
ของกินเล่นสุดคลาสสิค ไก่ย่าง หรือ ไก่ทอด พร้อมข้าวเหนียว เป็นอาชีพขายตลาดนัดได้ทุกตลาด ขายได้ทั้งตลาดนัดเช้า กลางวัน เย็น หัวใจสำคัญ คือ ไก่ทอดต้องกรอบนอกนุ่มใน ทอดให้สุก ซึ่งสูตรหมักไก่แล้วนำไปทอด รสชาติต้องไม่เค็มไปหรือจืดไป ส่วนข้าวเหนียวก็ฝึกนึ่งให้นุ่ม ไม่แฉะไม่แข็งไป เตรียมตักใส่ถุงพร้อมแบ่งขายง่าย ๆ ในตลาดนัด โดยกำไรมาจากการขายข้าวเหนียว ถุงละ 5-10 บาท เก็บเล็กผสมน้อย รับรอง เปิดขายตลาดนัด ได้จับเงินสดหลักพันแน่นอน
![ขายลูกชิ้นทอด](https://www.taokaecafe.com/asp-bin/images/1604383355_ลูกชิ้นปิ้ง.jpg)
3. ขายลูกชิ้นทอด / ขายลูกชิ้นปิ้ง
จัดว่า เป็นอีกหนึ่งของกินเล่นตลาดนัดยอดฮิต Top 3 ไม่แพ้ ไก่ย่าง และ หมูปิ้ง โดยลูกชิ้นปิ้ง หรือลูกชิ้นทอด จะทอดแบบระเบิดหรือไม่ระเบิด ก็ขายได้แน่นอน โดยทีเด็ดคือ น้ำจิ้ม ซึ่งสามารถหาสูตรจากอินเตอร์เน็ตได้ มีทั้งสูตรน้ำจิ้มมะขามแบบหวาน หรือสูตรเผ็ด(ใส่พริกป่นเยอะ ๆ ผสมแล้วเคี่ยวให้เดือด) หรือสูตรน้ำจิ้มซีฟู้ดรสแซ่บ (พริกขี้หนูเยอะ ๆ ปั่นให้ละเอียด) บวกกับลูกชิ้นมีคุณภาพ ไม่คาวไม่เหนียว ถ้าทำอร่อยขายได้ยาว ๆ ได้ลูกค้าประจำติดใจร้านคุณอย่างแน่นอน
![ขายหมึกย่าง](https://www.taokaecafe.com/asp-bin/images/1604383377_หมึกย่าง.jpg)
4. ขายหมึกย่าง
หมึกแถวไหนถูกและอร่อย? หมึกแถวบนและแถวล่างไง.!? แม้จะไม่ขำ… แต่ทำขายได้เงินจริง! เพราะนับเป็นของอร่อยที่ยั่วน้ำลายและน่ากิน ไปตลาดนัดที่ไหน ต้องมีลูกค้ายืนมุงต่อแถวสั่งแน่นทุกร้าน ขายเสียบไม้เล็ก ไม้ใหญ่ เฉลี่ยราคาไม้ละ 10 - 30 บาท หากหมึกย่างมีความสดได้คุณภาพ และอร่อย บวกกับน้ำจิ้มซีฟู้ดเปรี้ยวแซ่บถึงใจ มีเท่าไหร่ ก็ขายหมดเกลี้ยง และได้เงินหลายพันบาท/วัน อย่างแน่นอน
โดยเงินลงทุนหลัก ๆ ได้แก่ ปลาหมึกที่ต้องคัดเลือกมาย่างขาย ขอให้สดใหม่ได้คุณภาพ อาจจะใช้หมึกกล้วย หรือหมึกยักษ์ ก็สุดแล้วแต่เทคนิคการทำขายของเจ้าของร้านแต่ละคน รวมถึงน้ำจิ้มซีฟู้ดที่เป็นทีเด็ด ซึ่งจะทำให้ได้ฐานลูกค้าติดกันงอมแงม
![ขายเครป](https://www.taokaecafe.com/asp-bin/images/1604383393_เครป.jpg)
5. ขายเครป
เป็นอาหารขายดีตามตลาดนัดเช่นกัน โดนใจเด็ก ๆ และกลุ่มวัยรุ่น โดยหากเพื่อน ๆ อยากขายเสริม ก็สามารถบริหารร้านให้ลงทุนน้อยได้ แต่ต้องไม่ด้อยเรื่องคุณภาพและรสชาติ วัตถุดิบที่ลงทุนหลัก ๆ คือ เตาเครป และถังแก๊ส แต่หากรู้แหล่งซื้อ (ออนไลน์) ก็จะหาซื้อได้ในราคาถูก
โดยราคาเตาเครป เฉลี่ยจำหน่ายอยู่ที่ 2,000 บาท ส่วนวัตถุดิบใส่ไส้ หรือท็อปปิ้ง ลงทุนไม่แพง ได้แก่ แป้งเครป (หาสูตรแล้วทดลองทำขึ้นเองได้), หมูหยอง, ไส้กรอก, ปูอัด, แฮม, ลูกเกด, ซอสราดเครป ฯลฯ ข้อเสียคือ ลูกค้าต้องรอกรรมวิธีการทำสักพัก แต่หากคุณทำรสชาติอร่อย แป้งกรอบหรือนุ่มฟินสุดจริง ๆ จะนานแค่ไหน เชื่อว่าลูกค้าก็รอได้
![ขายซูชิ](https://www.taokaecafe.com/asp-bin/images/1604383407_ซูชิ.jpg)
6. ขายซูชิ
ข้าวปั้นญี่ปุ่น คำละ 5-10 บาท เป็นของทานเล่นที่ขายดีในตลาดนัดไม่แพ้ของกินประเภทอื่น ๆ ด้วยรสชาติที่หลากหลาย ได้แก่ ซูชิหน้าไข่กุ้ง, ไข่หวาน, ยำสาหร่าย, ปูอัด, ซาบะดอง, ปลาหมึก, แซลมอน, ทูน่า, ปลาไหล, ไข่แซลมอน, หอยเชลล์ ฯลฯ คำละ 5-10 บาท ไม่แพงแถมอิ่มอร่อย ซึ่งคนไทยคุ้นเคยกับซูชิ หรือข้าวปั้นญี่ปุ่นเป็นอย่างดี ทำให้ร้านขายซูชิ เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก
โดยเฉพาะจากที่ขายขึ้นห้างสรรพสินค้าเพียงอย่างเดียว แต่ปัจจุบัน ร้านซูชิแนวสตรีทฟู้ด ก็ลงมาขายในตลาดนัดเพิ่มมากขึ้น แต่ทุกร้านก็มียอดขายและฐานลูกค้าของตัวเอง
อย่างไรก็ตาม การทำซูชิ ต้องใช้ฝีมือ ต้องมีความรู้ซึ่งเกิดจากการแสวงหาและอบรม หรือเรียนทำปฏิบัติจริงมาก่อน และคนขายต้องสะอาด เพราะใช้มือสัมผัสกับข้าวปั้น ซึ่งหากทำให้ลูกค้าเชื่อมั่นได้ว่า ซูชิของร้านคุณอร่อยและสะอาด รับรอง ฟันกำไรจากการเปิดขายในตลาดนัดแต่ละวัน โกยเงินหลักหลายพันบาทอย่างแน่นอน
![ขายโดนัทจิ๋ว](https://www.taokaecafe.com/asp-bin/images/1604383430_โดนัทจิ๋ว.jpg)
7. ขายโดนัทจิ๋ว
เป็นอีกหนึ่งประเภทของกินเล่นที่เรามักเห็นตามตลาดนัดซึ่งมีมากขึ้น สำหรับโดนัทจิ๋ว ที่ถอดแบบหน้าตาและรสชาติมาจากแบรนด์ดังต่างประเทศที่ขายในห้างสรรพสินค้า แต่คนไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก นำต้นแบบมาพัฒนาต่อยอด และขายตามตลาดนัดในราคาที่ผู้บริโภคกลุ่ม Mass Market เอื้อมถึง
ทั้งนี้ ต้นทุนการทำโดนัท อุปกรณ์ราคาถือว่าไม่แพงเกินไป โดยอุปกรณ์และวัตถุดิบใช้ทำโดนัท เช่น แป้งสาลี(ใช้ทำโดนัท), ผงฟู, ยีสต์, ครีมเทียม, นมข้นจืด, เครื่องตีแป้ง, พิมพ์รูปโดนัท ฯลฯ ลงทุนเฉลี่ย 3,000 – 5,000 บาท (เครื่องตีและผสมแป้งจะแพงที่สุด)
ในส่วนสูตรการทำโดนัท สามารถหาเรียนตามอินเตอร์เน็ต หรือ เรียนกับสถาบันสอนทำเบเกอรี่ชั้นนำทั่วประเทศ เรียนจบคอร์ส ออกมาทำขายตามตลาดนัดได้ทันที ขายชิ้นละ 6-12 บาท ซื้อง่ายขายคล่อง โดยเฉพาะกลุ่มเด็กนักเรียน ซึ่งถือเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของคุณ
![ขายข้าวเหนียวหมูทอด](https://www.taokaecafe.com/asp-bin/images/1604383457_ข้าวเหนียวหมูทอด.jpg)
8. ขายข้าวเหนียวหมูทอด
เป็นของว่างและรองท้องได้ดีที่สุด ทั้งมื้อเช้า มื้อกลางวัน มื้อเย็น มื้อดึก และเป็นอาชีพตลาดนัดที่ฮอตฮิตที่สุด โดยรูปแบบการลงทุนและการขายไม่แตกต่างเท่าไหร่กับข้าวเหนียวไก่ทอด เพราะต้นทุนวัตถุดิบเพื่อนำมาทำขายพอ ๆ กัน (ตัวแปรคือ ราคาเนื้อหมู และเนื้อไก่) โดยคุณสามารถขายได้ทั้งเนื้อหมูทอด สามชั้นทอด กระดูกอ่อนหมูทอด ขายขีดละ 20 บาท ขายคู่กับข้าวเหนียว ซื้อง่ายขายคล่อง
ทั้งนี้หัวใจสำคัญ คือ การหมักหมู ด้วยการปรุงรสชาติ เครื่องเทศ และซอสเครื่องหมักให้ได้รสชาติกลมกล่อม ก่อนนำมาทอด แล้ววางใส่ถาดโชว์หน้าร้าน ให้ลูกค้าเห็น ไม่ช้าลูกค้าจะเดินมาตามกลิ่นหน้าร้านของคุณ รับรอง ซื้อขีดเดียวไม่เคยพอ
![ขายน้ำผลไม้ปั่น](https://www.taokaecafe.com/asp-bin/images/1604383477_น้ำผลไม้ปั่น.jpg)
9. ขายน้ำผลไม้ปั่น
เครื่องดื่มขายง่าย ลงทุนน้อย และได้กำไรเต็มเม็ดเต็มหน่วยที่สุด โดยลงทุนเครื่องปั่นผลไม้ (1,000-2,000 บาท มือใหม่หัดขายใช้ไปก่อนได้สบาย) นอกนั้นก็ลงทุนซื้อผลไม้สด เช่น ส้ม, แตงโม, สตรอว์เบอร์รี่, สับปะรด, แคนตาลูป, แก้วมังกร ฯลฯ (ราคาขึ้นลงตามฤดูกาล), หัวเชื้อแต่งกลิ่น, น้ำเชื่อม, น้ำตาล, เกลือ, แก้ว, หลอด, น้ำแข็ง ฯลฯ ซึ่งที่ไล่เรียงมานี้ ลงทุนเฉลี่ยไม่เกิน 3,000 บาท ก็สามารถเปิดร้านขายที่ตลาดนัดได้แล้ว ขายแก้วละ 30-35 บาท ต้นทุนหลัก/แก้ว ไม่เกิน 15 บาท (ไม่รวมค่าไฟ, ค่าเช่าที่)
ทั้งนี้ เมนูน้ำผลไม้ปั่น ขายได้ทุกกลุ่ม ทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะฤดูร้อนยิ่งขายดีเป็น 2 เท่า โดยมือใหม่หัดขาย ไม่ต้องใช้ฝีมืออะไรมาก ขอเพียงมีสูตรที่นิ่ง รสชาติอร่อย ดื่มแล้วสดชื่น อยู่ทำเลตลาดนัดที่คนพลุกพล่าน และหากคุณเป็นเจ้าแรกหรือเจ้าเดียวของตลาดนัดนั้น ถือว่า เป็นโอกาสทอง! เพียงเท่านี้ เฉพาะกำไร/วัน 1,000-2,000 บาท ก็ไม่ใช่เรื่องยาก
![ขายชานมไข่มุก](https://www.taokaecafe.com/asp-bin/images/1604383499_ชานมไข่มุก-10-บาท.jpg)
10. ขายชานมไข่มุก
ลืมภาพของชานมไข่มุกไต้หวันแบรนด์ดังขึ้นห้างฯ ไปก่อน เพราะเรากำลังจะพูดถึงชานมไข่มุก ที่ทำขายแก้วละ 10 บาท เพื่อทำขายตามตลาดนัด ที่เป็นแก้วพลาสติกใส รูปแบบรถพ่วงที่มีถังสแตนเลสช่องใส่ชานม
หรือรูปแบบร้านตามตลาดนัดที่แค่ตั้งโต๊ะ ทำป้ายร้าน หรือธงญี่ปุ่น โชว์ดิสเพลย์ง่าย ๆ ดึงดูดลูกค้า ส่วนชานมทำขึ้นมาเองจากบ้าน พร้อมขายที่ตลาดนัดได้เลย โดยอาจจะลงทุนซื้อถังพักชานมสแตนเลส (ราคาไม่เกิน 2,000 บาท *แต่ถ้าแบบรถพ่วงข้างอาจจะราคาสูงขึ้น)
ส่วนผงชาแต่ละรสชาติ เช่น กาแฟ, โกโก้, ชาเขียว, ชานม, เผือก ฯลฯ รวมถึงไข่มุก หาซื้อได้ตามร้านตัวแทนจำหน่ายทั่วไป (นำมาต้มตามสูตร) ไข่มุกเตรียมใส่แยกในถังเอาไว้ พร้อมตักขายให้กับลูกค้า ในราคาแก้วละ 10 บาท ตอบโจทย์เรื่องราคา และรสชาติที่สมเหตุสมผล ตรงกลุ่มผู้บริโภคที่มาเดินตลาดนัดได้เป็นอย่างดี