ธุรกิจร้านอาหารในยุค Delivery ที่ไม่ใช่ทุกร้าน Delivery แล้วรอด

21 พ.ค. 2564 13:34:38
ธุรกิจร้านอาหารในยุค Delivery ที่ไม่ใช่ทุกร้าน Delivery แล้วรอด

ร้านอาหารเป็นอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบเต็ม ๆ จาก วิกฤตการณ์ช่วงนี้ โดยเฉพาะการนั่งกินในร้านไม่ได้ 🍽 และต้องเริ่มปรับตัวหันมาสู่โมเดลเดลิเวอรี่แทน 🛵 แต่ไม่ใช่ทุกร้านที่จะทำได้ บางร้านต้องแบกต้นทุนสูงมากเพื่อไม่ให้ปิดร้าน หากทำการเดลิเวอรีอีก ก็จะไม่คุ้มทุนแน่ ๆ

🥫ต่อจากนี้เดลิเวอรี่ 🛵 อาจไม่ใช่แค่ทางเลือก แต่เป็นเพียงทางรอดของร้านอาหารในยุค New Normal นี้🥫

 
🍛 อาหารที่เหมาะกับการซื้อกลับไปกินที่บ้าน
ก็มีอาหารที่เราคุ้นเคยคือพวกอาหารจานเดียว 🍛  (ข้าวมันไก่ ข้าวกะเพราหมู ข้าวแกง ก๋วยเตี๋ยว ฯลฯ ที่ ราคาของอาหารราวจานละ 40-60 บาท สำหรับร้านข้างทางทั่วไป

🍟 อาหารประเภทที่แพงขึ้นมาหน่อย
 เช่น ฟาสต์ฟู้ดอย่างพวกเบอร์เกอร์ ไก่ทอด พิซซ่า ฯลฯ เฉลี่ยแล้วราคาอาหารต่อจานอยู่ระดับ 100-200 บาท ซึ่งยากมากที่คนทั่วไปในเศรษฐกิจแบบนี้จะสั่ง

🍜 อาหารที่เหมาะกับการนั่งกินในร้าน
อาหารหม้อไฟ หมูกระทะ ชาบู หมาล่า คาเฟ่ ขนม ฯลฯ

และจะมีกลุ่ม 🍖 Fine-dining ไม่ว่าจะเป็นสเต๊ก อาหารจีนขึ้นเหลา อาหารญี่ปุ่นสารพัดแบบ ฯลฯ ที่ราคาค่อนข้างแพงหน่อย เหมาะกับการกินในร้านเพราะได้อาหารที่ปรุงสุกใหม่ เน้นบรรยากาศร้าน และประสบการณ์อื่น ๆ นอกเหนือจากรสชาติ

ผู้บริโภคจึงถูกบีบให้ต้องกินอาหารที่เหมาะกับการกินนอกร้านเท่านั้น และราคาเฉลี่ยย่อมลดลงจากเดิม ร้านที่ไม่เหมาะกับกินที่บ้านจึงเจอผลกระทบอย่างแรง

เราจึงเห็นร้านอาหารกลุ่มนี้ ปรับเมนูอาหารให้เหมาะกับเดลิเวอรี่มากขึ้น เช่น ออกเมนูข้าวจานเดียวที่กินได้ง่ายกว่าเดิม ราคาถูกกว่าเดิม มาขายผ่านเดลิเวอรี่กัน แต่ก็ใช่ว่าจะขายได้เหมือนเดิม ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจาก บรรจุภัณฑ์ คำนวนวัตถุดิบใหม่หมด และโมเดลการคิดส่วนแบ่งรายได้ (หรือที่เรียกว่าการเก็บ GP)
 
และสิ่งที่ต้องคิดก่อนทำ 🛵 Delivery คือไม่ใช่ทุกเมนูอาหารจะเหมาะกับการทำ Delivery ดังนั้นควรพิจารณาก่อนว่า เมนูไหนเหมาะจะ Delivery หากถึงมือลูกค้าแล้ว สภาพอาหาร รสชาติ จะเป็นอย่างไร และเมนูที่มีต้นทุนอาหารสูงมาก อย่าลืมว่าการเข้าร่วมกับ Delivery นั้นจะต้องเสียค่าบริการหากคำนวณแล้วขายได้ 1 ออเดอร์ หักต้นทุนอาหารหักค่าบรรจุภัณฑ์ หักค่าบริการ แล้วเหลือกำไรต่ำมากก็อาจไม่คุ้ม หรือการขายแค่หน้าร้านสำหรับซื้อกลับบ้านเพียงอย่างเดียวอาจจะเจ็บตัวน้อยกว่า

หรือถ้าไม่ไหวก็อาจจะปิดกิจการไปก่อน เซฟต้นทุน รายจ่าย แล้วค่อยกลับมาสู้อีกครั้งหลังสถานการณ์ดีขึ้น 😊
 

2,242 คน

taokaecafe.com มีการใช้คุกกี้ อ่านเพิ่มเติม