แพคเกจ TaokaeCafe
แพคเกจ TaokaeCafe

ROAS กับ ROI: คุณได้อะไรจากการลงทุน?

29 ก.พ. 2567 15:47:31
ROAS กับ ROI: คุณได้อะไรจากการลงทุน?

ในโลกธุรกิจที่ทุกการลงทุนต้องมีการวัดผล ROI (Return on Investment) และ ROAS (Return on Ad Spend) คือดัชนีพื้นฐานที่ทำให้คุณไม่เพียงแต่รู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่ แต่ยังช่วยให้คุณเห็นภาพที่ชัดเจนของการเดินทางทางการตลาดของคุณด้วย

📈ROI: มิเตอร์วัดความสำเร็จโดยรวม
เริ่มจาก ROI ซึ่งเป็นหัวใจของทุกการตัดสินใจทางธุรกิจ คิดง่าย ๆ ว่า ROI เป็นมิเตอร์ที่วัดอุณหภูมิของการลงทุนของคุณ ทุก ๆ บาทที่ใช้ไปจะมอบค่าตอบแทนเท่าใดในการตลาด ROI ช่วยคุณทำความเข้าใจถึงประสิทธิภาพของแคมเปญโดยรวม ตั้งแต่การออกแบบเว็บไซต์ไปจนถึงการจ่ายเงินเดือนของทีมการตลาด ROI เป็นมากกว่าเพียงแค่ตัวเลข แต่เป็นเรื่องราวของการเติบโตและความสำเร็จ

📈ROAS: มาตรวัดเฉพาะเจาะจงลงโลกโฆษณา
ในทางกลับกัน ROAS จับจ้องไปที่โลกโฆษณาด้วยเลนส์ที่เฉียบคมยิ่งขึ้น ด้วยคำถามที่ว่า "การโฆษณานี้มีค่าหรือไม่" โดยวัดผลตอบแทนจากทุก ๆ บาทที่ใช้ไปกับโฆษณา ROAS ช่วยให้คุณเห็นความสามารถในการทำกำไรของกลยุทธ์โฆษณาแต่ละอย่าง

 

🏃‍♂️การเดินทางที่แตกต่างกันของ ROI และ ROAS
แม้ว่าตัวชี้วัดทั้งสองจะมุ่งเน้นไปที่การวัดผลตอบแทน แต่เส้นทางของทั้งสองนั้นแตกต่างกัน ROI ดำดิ่งลงไปในหัวใจของการลงทุนทางธุรกิจโดยรวม ในขณะที่ ROAS จับจ้องไปที่โลกของการโฆษณาดิจิทัลความสามารถในการแยกแยะสองตัวชี้วัดนี้ช่วยให้คุณสามารถใช้แนวทางที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้นในการปรับปรุงกลยุทธ์ของคุณ

ความคล้ายคลึงกัน 

ทั้ง ROI และ ROAS ต่างช่วยให้คุณเข้าใจได้ดีขึ้นว่าแคมเปญการตลาดของคุณทำกำไรได้อย่างไร การมอนิเตอร์ตัวชี้วัดทั้งสอง ทำให้คุณสามารถปรับเปลี่ยนได้ทันท่วงที และมีข้อมูลเชิงลึกเพื่อนำไปใช้กำหนดกลยุทธ์และความริเริ่มใหม่ ๆ ในอนาคต
• ทั้งสองตัว ประเมินประสิทธิภาพของการลงทุนหรือค่าใช้จ่าย
• ทั้งสองตัว แสดงตัวเลขที่ทำให้เปรียบเทียบและวิเคราะห์ผลลัพธ์ได้ง่าย
• ทั้งสองตัว ช่วยในการตัดสินใจ จากการประเมินประสิทธิภาพและประสิทธิผลของกิจกรรมทางการเงิน


ความแตกต่างกัน

แม้ว่าการวัดทั้งสองจะช่วยคำนวณประสิทธิภาพของแคมเปญการตลาด แต่ก็ไม่เหมือนกัน ด้วยความแตกต่างที่สำคัญก็คือ
• ROI เป็นตัวชี้วัดทางการเงินที่กว้างกว่าซึ่งใช้สำหรับการลงทุนหรือกิจกรรมทางธุรกิจ ในขณะที่ ROAS นั้นใช้สำหรับการโฆษณาและการตลาดโดยเฉพาะ
• ROAS มุ่งเน้นไปที่ต้นทุนการโฆษณาและรายได้จากการโฆษณาเท่านั้น ในขณะที่ ROI จะพิจารณาต้นทุนและกำไรทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการลงทุน
• ROI อาจเป็นค่าบวกหรือลบ ซึ่งบ่งบอกถึงความสามารถในการทำกำไรหรือขาดทุน ในขณะที่ ROAS โดยทั่วไปจะถือว่าประสบความสำเร็จเมื่อเกิน 100% ซึ่งบ่งชี้ถึงผลตอบแทนที่เกินกว่าค่าโฆษณา


ROI และ ROAS ในทางปฏิบัติ

สูตรของ ROI คือ 
(รายได้ – ต้นทุนการตลาดทั้งหมด) / ต้นทุนการตลาดทั้งหมด x 100% = ROI ทางการตลาด (Revenue – All Marketing Costs) / All Marketing Costs x 100% = Marketing ROI

เช่น หากในเดือนใดก็ตาม ยอดขายของคุณอยู่ที่ 60,000 บาท ในขณะที่ต้นทุนการตลาดอยู่ที่ 8,000 บาท นั่นหมายความว่า ROI คือ 650% (หรือ 6.5 เท่า) เพราะ (60,000 – 8,000)/8,000 x 100 = 650%

ROI ข้างต้นนี้ทำงานบนสมมติฐานที่ว่า การตลาดเป็นปัจจัยเดียวที่ส่งผลต่อการเติบโตของยอดขาย ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ยังมีปัจจัยอื่น ๆ อีกมากมาย แต่ ROI ทางการตลาดยังคงบ่งชี้ว่าแคมเปญของคุณทำงานได้ดีเพียงใด เมื่อใช้ร่วมกับตัวชี้วัดทางการตลาดอื่น ๆ การคำนวณ ROI จะช่วยให้คุณเข้าใจว่าจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนหรือไม่


สูตร ROAS คือ
ROAS = (รายได้จากแคมเปญโฆษณา / ต้นทุนของแคมเปญโฆษณา) x 100%
ROAS = (Revenue You Receive from Ads/Costs of Ads) x 100%


การติดตาม ROAS ระหว่างแคมเปญหรือกลยุทธ์ทางการตลาด ช่วยคุณวัดและเปรียบเทียบประสิทธิภาพของการโฆษณาแยกกันและร่วมกันได้ เมื่อใช้ร่วมกับเมตริกอื่น ๆ เช่น Cost Per Acquisition (CPA), Cost Per Click (CPC), Conversion Rate และ Cost Per Lead (CPL) โดย ROAS จะให้ภาพรวมที่แม่นยำว่ากลยุทธ์การโฆษณาดิจิทัลของคุณทำงานได้ดีเพียงใด ซึ่งสามารถนำไปปรับปรุงประสิทธิภาพของแคมเปญในอนาคตได้

เช่น บริษัทแห่งหนึ่งใช้จ่าย 20,000 บาท ในแคมเปญโฆษณาออนไลน์ในเดือนเดียว แคมเปญส่งผลให้มีรายได้ 100,000 บาท ดังนั้น ROAS จึงเป็น 500 เปอร์เซ็นต์ หรือ 5:1 หมายถึง เงินทุกบาทที่บริษัทใช้จ่ายในแคมเปญโฆษณา จะสร้างรายได้มูลค่า 5 บาท


👍ROAS หรือ ROI ที่ดีคืออะไร
ไม่มีคำตอบที่ครอบคลุมสำหรับสิ่งที่ถือว่าเป็น ROI หรือ ROAS ที่ดี แต่แต่ละบริษัทมีเป้าหมาย ROI ของตัวเองซึ่งขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น โครงสร้างต้นทุน อัตรากำไรขั้นต้น ประเภทของกลยุทธ์ อุตสาหกรรม การระบุแหล่งที่มาของต้นทุนการตลาด

โดยทั่วไป ROI ที่ดีจะถือเป็นอะไรก็ได้ที่มากกว่า 100% อย่างไรก็ตาม หลายบริษัทตั้งเป้าไว้ที่ ROI 500% หรือสูงกว่า

เมื่อพูดถึง ROAS คำตอบก็เหมือนกัน ROAS ได้รับผลกระทบจากองค์ประกอบต่าง ๆ รวมถึงอัตรากำไรและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ตามข้อมูลของ BigCommerce อัตราส่วนมาตรฐาน ROAS ทั่วไปคือ 4:1 

การตัดสินใจระหว่าง ROI และ ROAS ไม่ใช่เรื่องของการเลือกตัวเลือกที่ดีที่สุด แต่เป็นการเลือกตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดสำหรับเป้าหมายของคุณ ท้ายที่สุด การใช้ทั้งสองตัวชี้วัดอย่างมีสติสามารถนำไปสู่การตัดสินใจที่ฉลาดขึ้นและผลลัพธ์ทางการตลาดที่ดีขึ้น



ที่มา
https://hawksem.com/blog/roi-vs-roas-similarities-differences/
https://www.bigcommerce.com/glossary/return-on-ad-spend/
https://www.blyp.ai/a/blog/roi-vs-roas-differences-and-which-you-should-use
https://www.upwork.com/resources/measuring-roi-vs-roas

1,099 คน

taokaecafe.com มีการใช้คุกกี้ อ่านเพิ่มเติม