เริ่มต้นเรียนธุรกิจ ต้องเริ่มต้นเมื่อไร?

27 ก.ย. 2565 14:31:29
เริ่มต้นเรียนธุรกิจ ต้องเริ่มต้นเมื่อไร?

Business School  การเริ่มต้นเรียนธุรกิจต้องเริ่มต้นเมื่อไร ต่อจากสัปดาห์ที่แล้วเขียนเกี่ยวกับเรื่องการจัดตั้งบริษัทจำกัด ที่ต้องเข้าใจเรื่องหลักๆและวิธีการดำเนินการแบบถูกต้องตามระบบระเบียบของภาครัฐ เราคงจะทำแบบลัด ๆ ไม่ได้อีกแล้ว ส่วนในเรื่องของการหาเงินก็ต้องเรียนรู้จากประสบการณ์กัน แต่ส่วนใหญ่ผู้ประกอบการใหม่ ที่เป็นลูกจ้างมาก่อนก็คงมีประสบการณ์จากที่ทำงานเก่า มาทำธุรกิจที่คล้ายและเหมือน คงไม่ได้ผิด แต่ก็ทำให้มันถูกต้องและโปร่งใส มีคุณธรรมบ้าง อย่าไปแย่งลูกค้าเก่าของเจ้านายมาหมด ด้วยเลห์และกลนะครับ แข่งกันแบบถูกต้อง วัดกันที่ฝีมือดีที่สุด

Business School สมัยก่อนคงต้องไปหาตามสถาบันการศึกษาในระดับปริญญาโท หรือ MBA ในยุคปัจจุบันมีมากมาย แต่ต้องเรียนรู้จากอะไรก่อนจากอะไรหลัง ในบทความนี้ ขอนำเอาประสบการณ์  ที่ผ่านมาเล่าให้ฟัง สำหรับเด็กยุคใหม่ๆที่ คงไม่อยากจะไปทำงานประจำอีกแล้ว มาดูหลักสูตร MBA ที่เรียนเมื่อ 4 ที่แล้ว เรียนทั้งหมด 12 วิชา ระยะเวลาเรียน 2 ปี ½ ในแต่ละรายวิชาเรียน 8 Week เวลา 2 ชั่วโมงครึ่งถึง 3 ชั่วโมง  เหมาะกับคนทำงานประจำหรือผู้บริหารมาก เพราะไม่หนักเกินไปในการแบ่งเวลามาเรียนรู้ มาดูกันว่ามีวิชาอะไรกันบ้าง

 1. Marketing   
 2. Managing Organization
 3. Human Resource  Management
 4. Managing Operations
 5. Data Driven Decision   Making
 6. Measuring Business Performance
 7. Managing Corporate Finance
 8. International Business
 9. Strategic Management
 10. Managing Innovation and Change
 11. Logistics and Supply Chain Management
 12. Entrepreneurship


บอกเลยว่า Wow มาก ๆ การจัดลำดับหลักสูตรก็เรียงตามลำดับ 1 ถึง 12 เริ่มจากวิชาแรกการตลาด ซึ่งเป็นหัวใจของการทำธุรกิจ โดยในเนื้อหาจะปูแนวคิดพื้นฐาน ยิ่งคนมีประสบการณ์จะมองเห็นภาพนั้นชัดเจนมากๆ ว่าการตลาด คือ ต้องมีคนซื้อและคนขาย แต่เมื่อมีคนซื้อมากขึ้น คนขายก็ขายได้แบบไม่ต้องแข่งขัน แต่เมื่อใดที่มีคนขายมากขึ้น คนซื้อเท่าเดิม ก็ต้องมาแข่งขันกันแย่งลูกค้ากัน เพราะผู้ซื้อมีทางเลือกมากขึ้น คุณภาพและราคาจึงมีผลต่อการตัดสินใจ ของผู้ซื้อเมื่อเราเข้าใจ ความหมายของ การตลาดที่ถูกต้อง จึงต้องมีการออกแบบ ขั้นตอนการวางแผนการตลาด ก่อนจะนำไปใช้ในการวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาดได้  รวมถึงปัจจัยอื่นๆอย่างสภาพแวดล้อมต่างส่งผลต่อการขาย​   การตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้   การหากลยุทธ์ ที่ตอบโจทย์ ตอบสนองต่อความเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมทางการตลาดได้ จึงสามารถหาความแตกต่างของตลาดได้อย่างดี เพิ่มช่วยในการตัดสินใจซื้อสินค้าของลูกค้า นี้ คือวิชาแรกเท่านั้น มาดูวิชาที่ 2 คือ Managing Organization ในวิชานี้จะบอกถึงเรื่องของการบริหารจัดการองค์กร ซึ่งก็สำคัญไม่แพ้กับการตลาดและเป็นเรื่องที่ไม่ได้ง่ายเลย ยิ่งเราจดทะเบียน บริษัทจำกัดแล้วทุกอย่างต้องมีระบบ ระเบียบชัดเจน  
             
 

              นิยามของวิชา Managing​ Organization​   " An organization’s ability to learn,   
           and translate that learning into action rapidly ,  is the ultimate
           competitive business advantage.”  Jack Welch, General Electric
 
ความสามารถขององค์กรในการเรียนรู้และแปลงการเรียนรู้นั้นไปสู่การปฏิบัติอย่างรวดเร็ว ถือ เป็นข้อได้เปรียบทางธุรกิจที่แข่งขันได้ในระดับสูงสุด”  แจ็ค เวลช์, เจเนอรัล อิเล็กทริก 

 
3 เรื่องที่สำคัญ Competitive Challenges , Human resources และ Employee Concerns คือ สิ่งที่จะรวบรวมมาเขียนในบทความโรงเรียนสอนธุรกิจ ที่หลายคนมักจะหนี เรื่องคนและโยนปัญหาให้กับพนักงานมากกว่าโทษที่ตัวเรา  หยุดเอาตัวเราเป็นเกณฑ์​วัดคุณภาพพนักงาน

การบริหารคน บริหารงาน ผู้จะบริหารเอง  ต้องมีความรู้มากพอในการใช้กลยุทธ์​ในการสร้างพลังในการสร้างองค์​กรที่ดีด้วยหลักการของ Human Resources Managers and  Business Strategy เริ่มจากระดับปฏิบัติการ จนถึงระดับวางแผนกลยุทธ์ ผู้จัดการทรัพยากรมนุษย์ต้องมีความเข้าใจถึงการดำเนินงานและ กลยุทธ์ขององค์การคู่แข่งขัน   การบริหารคุณภาพ โดยรวม TQM หรือ


Total quality management   กลยุทธ์ขององค์กรที่จะใช้แข่งขันได้ มีอะไรบ้าง  ❓ 

1. Reengineering  
2. Downsizing  
3. Outsourcing 
4. Change management                 
5. Reactive change  
6. Proactive change  
7. Six Sigma  


7  เรื่อง สำคัญ ๆ ที่เอาเองควรต้องมีและเราก็ต้องนำหลักการมาเป็นแกนหลักของงานให้พนักงานข่วยกันขับเคลื่อน​องค์กรกันครับ ยังมีอีก 10 กว่าวิชาเลยที่สำคัญและจำเป็นในการเรียนรู้วิชาธุรกิจ ค่อยปรับทำความเข้าใจไปทีละส่วน คนที่ทำงานมาเกิน 10 ปีน่าจะเข้าใจได้ไม่ยากครับ ติดตามตอนต่อไปครับ

1,660 คน

taokaecafe.com มีการใช้คุกกี้ อ่านเพิ่มเติม