ผักอบกรอบ กระแสฮิตในโซเชียล สู่ธุรกิจสร้างรายได้

1 ก.ย. 2564 15:01:40
ผักอบกรอบ กระแสฮิตในโซเชียล สู่ธุรกิจสร้างรายได้

ผักอบกรอบ กำลังเป็นกระแสโด่งดังมากใน TikTok มีคนนำมารีวิว ทำคลิปออกมาให้ดูกันเยอะมาก ซึ่งแบรนด์ที่หลายคนนำมาทำคลิปวิดีโอ ก็มีทั้งที่เป็นแบรนด์ไทย และแบรนด์นำเข้าจากต่างประเทศ โดยผัก ผลไม้หลัก ๆ ที่นิยมนำมาทำก็จะมีเห็ดหอม กระเจี๊ยบเขียว แครอท กล้วย ฟักทอง ขนุน มัน เป็นต้น ถือว่าเหมาะมากสำหรับเทรนด์รักสุขภาพ และคนที่ชอบกินจุบจิบ ช่วงกักตัว และกินเพลินไม่รู้สึกว่าอ้วน

ตอนนี้ร้านค้าออนไลน์มีการแข่งขันสูงมาก มีจุดเด่นแตกต่างกันไป เช่น รสชาติ ขนาดชิ้น ราคา เน้นธรรมชาติไม่ปรุงแต่ง หรือมีให้เลือกชนิดผักหลากหลายกว่า

ซึ่งกรรมวิธีการผลิตจะแตกต่างกันไปในแต่ละร้าน เช่น แบบฟรีซดราย (Freeze Drying) หรือแบบทอดสุญญากาศ (Vacuum Fried)
 

ใช้เครื่องอบสุญญากาศ (Vacuum drier) อบอาหาร

หลักการทำงาน:
ระเหยน้ำจากอาหาร ภายใต้ภาวะความดันอากาศต่ำกว่าความดันบรรยากาศ โดยใช้ปั๊มสุญญากาศ (vacuum pump) สูบอากาศออก เพื่อทำให้เกิดสุญญากาศในห้องอบ วิธีนี้ใช้อุณหภูมิในการทำแห้งต่ำ เช่น 50°C ถึง 60°C

เหมาะกับอาหารที่ไวต่อความร้อนหรือออกซิเจน และต้องการความชื้นต่ำ เช่น ผลไม้ เพราะใช้อุณหภูมิในการทำแห้งต่ำ จึงทำให้เกิดการเปลี่ยนสีน้อย สีสวย ไม่เป็นสีน้ำตาล คงคุณค่าทางโภชนาการสีใกล้เคียงกับของสด
 

ใช้เครื่องทอดสุญญากาศ (Vacuum fryer) ทอดอาหาร

หลักการทำงาน เป็นการทอดด้วยน้ำมันในสภาวะสุญญากาศ ใช้อุณหภูมิในการทอดต่ำกว่าการทอดทั่วไป เช่น 80°C โดยใช้ปั๊มสุญญากาศ (Vacuum pump) ดึงอากาศออก ทำให้ระบบอยู่ในสภาวะความดันต่ำหรือสุญญากาศ

นิยมใช้เพื่อทอดผักผลไม้ เช่น ทุเรียน ขนุน กระเจี๊ยบเขียว สับปะรด กล้วย มันฝรั่ง แอปเปิล แครอท พริกหวาน เป็นต้น วิธีนี้ลดการอมน้ำมันของอาหาร และสามารถ นำน้ำมันที่ใช้แล้วกลับมาใช้ใหม่ได้ดีกว่าการทอดปกติ

ซึ่งการทำแห้งทั้ง 2 รูปแบบข้างต้น สามารถช่วยรักษาคุณภาพของอาหาร เช่น สี กลิ่น รสชาติ และคุณค่าทางโภชนาการได้ดีกว่าการทำแห้งในสภาวะบรรยากาศปกติ การทำแห้งผัก ผลไม้ที่สามารถทำได้ง่าย ๆ ที่บ้าน เช่น การใช้เตาอบ หม้ออบลมร้อน หม้อทอดไร้น้ำมัน
 

วิธีทำผักอบกรอบ โดยใช้เตาอบ

  • ล้างทำความสะอาดผักให้สะอาดแล้วทำการตกแต่งผัก โดยการเด็ด หั่นหรือสไลซ์ผักนั้น ๆ ตามประเภทของผัก
  • ซับให้แห้ง และนำผักที่ได้วางบนถาดอบ อาจมีการทาน้ำมันมะกอกหรือน้ำมันอะโวคาโด ตามความชอบ
  • อบโดยใช้อุณหภูมิที่เหมาะสมกับผักแต่ละชนิด เช่น
    • ฟักทองสไลซ์ ใช้อุณหภูมิประมาณ 100°C เวลา 25-30 นาที
    • บร็อคโคลี่ ใช้อุณหภูมิประมาณ 200°C เวลา 20 นาที กลับด้านทุก 10 นาที
    • กระเจี๊ยบเขียว ใช้อุณหภูมิประมาณ 200°C เวลา 15 นาที กลับด้านทุก 5 นาที

นำออกมาปรุงรสตามชอบ เช่น เกลือนิดหน่อย ส่วนใหญ่จะไม่ปรุงรสมากเพราะเน้นดีต่อสุขภาพ

วิธีไม่ยาก แค่มีอุปกรณ์พร้อม และรายได้คุ้มทุนแน่นอน หรือจะลองรับแบบสำเร็จรูปจากเว็บไซต์จีนมาขายก็เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่นิยมไม่แพ้กัน ช่วงนี้ลองพลิกวิกฤตเป็นโอกาส สร้างรายได้ใหม่ ๆ กันจ้า

8,253 คน

taokaecafe.com มีการใช้คุกกี้ อ่านเพิ่มเติม