เทคนิคขายอาหารออนไลน์ผ่านแอปฯ ให้มีกำไร

15 มิ.ย. 2566 16:20:37
เทคนิคขายอาหารออนไลน์ผ่านแอปฯ ให้มีกำไร

อีกหนึ่งช่องทางการขายอาหารและเครื่องดื่มในยุคนี้ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการมีช่องทางขายของผ่านแอปฯ เดลิเวอรีนั้นสำคัญมาก ซึ่งในปัจจุบันค่ายแอปฯ ส่งอาหารเดลิเวอรีที่นิยมนั้นมีให้บริการอยู่ประมาณ 6-7 ค่าย อย่างน้อยร้านอาหารอาจจะมีเข้าร่วมอย่างน้อย 1 ค่ายเพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้า 

นอกจากนั้นแล้ว สำหรับคนที่ไม่ได้มีหน้าร้าน แต่ก็อยากมี Passive Income ตัวแอปพลิเคชันเองก็สามารถสร้างเงินสร้างรายได้ให้กับคนอยากขายอาหารแบบไม่มีหน้าร้านได้อีกด้วย 


ข้อดีของเข้าร่วม แอปฯ สั่งอาหารออนไลน์

✅ เพิ่มความสะดวกให้แก่ร้านค้าและลูกค้า
✅ เพิ่มโอกาสให้ร้านค้าเป็นที่รู้จักมากขึ้น
✅ ไม่ต้องลงทุนโปรโมทร้านบ่อย ๆ (แต่บางครั้งต้องเสียค่า AD หากต้องการให้ลูกค้าเห็นมากขึ้น) 
✅ ไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้านก็ขายได้
✅ มีคนช่วยทำการตลาดเสมอ 
✅ เพิ่มความสะดวกให้ลูกค้า ด้วยรองรับการชำระผ่านระบบออนไลน์หลายช่องทาง 

การจะขายของกิน อาหารและเครื่องดื่ม ผ่านแอปฯ เดลิเวอรี มีข้อดีคือเข้าร่วมง่าย แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะสามารถสร้างกำไรได้ง่ายๆ เพราะตัวแอปพลิเคชันเองมีข้อกำหนด และเงื่อนไขมากมาย รวมไปถึงค่า GP ของแต่ละค่ายที่แตกต่างกันไป ซึ่งคนที่จะขายต้องรู้ และทำความเข้าใจส่วนนี้ด้วย 


เทคนิคการขายอาหารและเครื่องดื่มผ่านแอปฯ ให้มีกำไร ขายดีตลอด 

1. การคำนวณต้นทุน

การขายอาหาร เครื่องดื่ม ของหวาน ผ่านแอปฯ จะถูกหักค่าบริการหรือค่าคอมมิชชัน (GP) ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้วจะอยู่ที่ประมาณ 30 % แตกต่างกันไป ซึ่งตรงนี้ทำให้เราต้องตั้งราคาขายที่เหมาะสม คำนวณต้นทุนดีๆ เพื่อให้เราเหลือกำไรต่อชิ้นที่เหมาะสม 

สำหรับแอปฯ สั่งอาหารแบบเดลิเวอรี่ที่นิยมในตอนนี้มีประมาณ 6 เจ้า ซึ่งแต่ละเจ้าจะคิดค่า GP แตกต่างกันไป แต่ร้านค้าเองไม่จำเป็นต้องเข้าร่วมโปรแกรมหัก GP ก็ได้เช่นกัน แต่จะทำให้ลูกค้าต้องเสียค่าส่งเพิ่ม ซึ่งในทางของคนซื้อก็จะถือว่าไม่คุ้มค่า และมองหาร้านที่มีค่าส่งน้อยกว่า 


อัตราค่า GP ของแอปฯ เดลิเวอรีต่างๆ 

Grab 💰 ค่าคอมมิชชัน  30 % และ VAT เพิ่ม 7%

ค่าคอมมิชชันคิดเป็น = (สมมติออเดอร์นี้ 1000 x 30%) = 300 บาท
ภาษีมูลค่าเพิ่ม = 7% ของค่าบริการ = (300 x 7%) = 21 บาท

คิดเป็นค่าบริการรวมภาษีมูลค่าเพิ่ม = (1000 x 30%) + (300 x 7%)
= 300 + 21 = 321 บาท

ดังนั้น ยอดขายออเดอร์นี้ที่จะได้รับจาก Grab คิดเป็น 1000 - 321 = 679 บาท

📍โอนเงินหลังหักค่า GP ในวันถัดไป


Foodpanda  💰คิดค่าบริการในการใช้งาน 30% จากยอดออเดอร์ เมื่อรวม VAT แล้ว จะเท่ากับ 32.1%
📍ตัดรอบบิลคือทุกๆ สิ้นเดือน และเงินจะถูกโอนภายในเวลา 15.00 น. ของทุกวันที่ 16-20


LINE MAN  💰 คิดค่าบริการในการใช้งาน 30% จากยอดออเดอร์ เมื่อรวม VAT แล้ว จะเท่ากับ 32.1%
✔  ไม่มีค่าแรกเข้าในการสมัคร ไม่มีค่ามัดจำ 
📍โอนเงินหลังหักค่า GP ในวันถัดไป (มูลค่าเกิน 500 บาท)


Robinhood  💰 คิดค่าบริการในการใช้งาน 10% จากยอดออเดอร์ 
✔ การเข้าร่วมเป็นร้านค้ากับ Robinhood Shop ไม่มีค่าแรกเข้า 
📍 โอนเงินหลังหักค่า GP ในวันถัดไป (ไม่มีขั้นต่ำ) 

Shopee Food  💰 คิดค่าบริการในการใช้งาน 30% จากยอดออเดอร์ เมื่อรวม VAT แล้ว จะเท่ากับ 32.1%
📍โอนเงินหลังหักค่า GP ในวันถัดไป


2. การบริหารจัดการที่ดี 

การขายของผ่านแอปฯ นั้นต้องบริหารจัดการเวลาให้ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่มีหน้าร้านอยู่แล้ว หากมีออเดอร์ออนไลน์เข้ามาในช่วงยุ่งๆ ต้องวางแผนการทำให้ดี มิเช่นนั้นลูกค้าจะต้องรอนาน 


3. ใส่ใจกับเรื่องของ Packaging

เรื่องของ Packaging ต้องให้ความสำคัญมากๆ ต้องมิดชิด ดูดี และสะอาด รวมถึงต้องรักษาอาหารด้านในไว้ได้ยาวนาน เพราะของออกจากหน้าร้านบางทีอยู่ในสภาพนึง แต่พอไปถึงมือลูกค้าแล้วอาจจะอยู่อีกสภาพนึง  


4. รักษามาตรฐานอยู่เสมอ 

ทั้งเรื่องรสชาติอาหาร ความใส่ใจ และต้องพยายามทำให้ลูกค้ารู้สึกเหมือนนั่งทานที่ร้าน เพราะการซื้อของผ่านแอปฯ ลูกค้าสามารถให้คะแนนการบริการ ซึ่งจะส่งผลกับภาพลักษณ์ของร้านในระยะยาว และมีผลต่อการ


5. ทำการตลาดให้เป็น 

ต้องมีการบูสโพสต์ ทำ marketing ร่วมด้วย ต้องศึกษาวิธีการทำให้ร้านคุณไปอยู่บนๆ ขาจรไถๆหน้าจอแล้วหาเจอ



การขายของผ่านแอปฯ เดลิเวอรีไม่ใช่เรื่องยาก แค่เราต้องใส่ใจและให้ความสำคัญ และอย่าลืมคิดต้นทุน กำไร ให้คุ้มค่า ไม่อย่างนั้นเราจะรู้สึกว่าขายไปเท่าไหร่ก็ไม่ได้กำไร

4,775 คน

taokaecafe.com มีการใช้คุกกี้ อ่านเพิ่มเติม