How To ออกจากเซฟโซน รวมข้อคิด & วิธีเริ่มต้นสร้างแบรนด์ จุดเริ่มต้นเล็ก ๆ สู่ก้าวที่ยิ่งใหญ่

ปีใหม่นี้ เชื่อว่า เพื่อน ๆ แต่ละคนย่อมมีวิถีทางของตัวเองในการตั้งเป้าหมาย หรือทดลองทำสิ่งใหม่ ๆ อะไรสักอย่างให้กับตัวเอง ทั้งในด้านสุขภาพ เรื่องของการปรับความคิด การเปลี่ยนแปลงเรื่องหน้าที่การงาน การเรียน การเงิน หรือแม้แต่ความรัก ฯลฯ

เช่นเดียวกับ ในเรื่องของการทำงาน หรือการลงทุนประกอบอาชีพหรือทำมาค้าขาย แอดมินเชื่อว่า มีหลายคน ที่ใช้ฤกษ์งามยามดีปีใหม่นี้ ในการเปลี่ยนแปลงชีวิต โยกย้ายงาน ขยับตำแหน่ง เริ่มงานใหม่ เป็นต้น 

โดยแอดฯ ก็ขอเอาใจช่วยให้ประสบผลสำเร็จทุกอย่างตามที่ทุกท่านได้ตั้งเป้าเอาไว้..

แต่สำหรับเจ้าของธุรกิจเอสเอ็มอี รวมไปถึงพ่อค้าแม่ค้ามือใหม่ ที่เพิ่งตัดสินใจออกจากงานประจำมาค้าขาย หรือประกอบธุรกิจ หรืออาชีพอิสระเต็มตัว.. 

หรือบางคน กำลังเริ่มต้นเป็นพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ หรือกำลังจะออกไปขายของหลังเลิกงานประจำ หลังเลิกเรียน เป็นรายได้ที่สอง เป็น Second Job ซึ่งแต่ละคนก็คงจะมีวิถีทาง วิธีการ ลำดับขั้นตอนการเตรียมความพร้อมในแบบฉบับของตัวเอง

แต่หากใครที่มีความปรารถนาแรงกล้า อยากมีรายได้เสริม หรือกำลังจะเปิดร้านทำมาค้าขายเป็นเจ้านายตัวเอง แต่ยังไม่มีวิธีการ ยังสับสน !! ความคิดยังคลุมเครือ ไม่รู้จะเริ่มต้นทำอะไรก่อนดี เพื่อให้ได้มาซึ่งรายได้ที่แน่นอน เหมือนกับทำงานประจำกินเงินเดือน..

แอดมิน ขอใช้พื้นที่ มาบอกเล่าประสบการณ์ และนำเสนอวิธีการหรือ How to การเริ่มต้นสร้างแบรนด์ การเปิดร้านเพื่อทำการค้า การมองหาและสร้างฐานลูกค้า ค่อย ๆ สร้างการรับรู้ถึงการมีตัวตนของคุณ 

ลองอ่านคอนเทนต์นี้ และนำไปปรับใช้ดู เพื่อตีวงให้แคบ ล้อมกรอบความคิด ในสิ่งที่คุณกำลังจะทำ ให้ลำดับขั้นตอน และกำหนดการลงมือปฏิบัติให้ชัดเจนขึ้น เพื่อให้คุ้มค่า เหนื่อยกาย-ใจ และใช้เงินทุนน้อยที่สุดและคุ้มค่าที่สุด เพื่อให้แบรนด์ของคุณเป็นที่รู้จักต่อผู้บริโภคหรือกลุ่มลูกค้าของคุณอย่างรวดเร็วและต้องมีคุณภาพด้วยนะ 

• รู้จัก Nature หรือตัวตนโดยธรรมชาติของคุณ ว่า คุณชอบและถนัดอะไร หาจุด ๆ นั้นของคุณให้เจอเสียก่อน หรือถ้าไม่มี ไม่รู้จริง ๆ ก็ให้พิจารณว่า คุณมักจะหมกมุ่นหรือคลั่งไคล้ หลงใหลเรื่องอะไร เป็นเวลานาน ๆ โดยแม้ว่า กาลเวลาผ่านไปเป็นเดือนเป็นปี คุณก็ยังชื่นชอบสิ่ง ๆ นั้นอยู่ นั่นแหละ สิ่งที่คุณจะสามารถทำในอนาคต เป็นเงินหรือเป็นอาชีพได้ (หมกหมุ่นกับสิ่งที่สร้างสรรค์นะ)

• ดูเงินทุน/ศักยภาพ และบริบทพื้นที่ที่คุณอาศัยอยู่ด้วย ว่า ซัพพอร์ทในสิ่งที่คุณกำลังคิดจำสิ่งนั้นมากน้อยแค่ไหน ยกตัวอย่างง่าย ๆ เช่น อยากเปิดร้านกาแฟเก๋ ๆ ในห้างสรรพสินค้า แต่มีเงินเก็บหลักพันบาท อันนี้คงไม่มี Make Sense หรือไม่ค่อยเข้าท่าเท่าไหร่นะ มันเกินตัวไป ให้ลองลดขนาดความคิด มาเริ่มต้นขายกาแฟโบราณ ก่อนไหม ? เพื่อเก็บเกี่ยวผลกำไรและประสบการณ์ แล้วค่อย ๆ ล่าฝันที่คุณตั้งเป้าไว้ก็ได้ เป็นต้น 

• อย่าฟังคำคน อย่าสนใจใคร อย่าเปลี่ยนแนว.. ประโยคท่องดังจากเพลง 15ค่ำเดือน11 ของพี่เสก-โลโซ อันนี้นำมาใช้ในการเริ่มต้นสร้างแบรนด์ของคุณได้ ! 

ยกตัวอย่างจากข้อข้างบนต่อเนื่องเช่น คุณชอบดื่มกาแฟสด คุณมีความสุขทุกครั้งที่ได้เดินทางไปเช็กอินร้านกาแฟสดเก๋ ๆ ในกรุงเทพฯ และตามต่างจังหวัด แต่มาวันหนึ่ง มีเพื่อนหรือคนรู้จักของคุณมาบอกว่า เปิดร้านอาหารญี่ปุ่นดีกว่า หรือเปิดร้านน้ำผลไม้ปั่นดีกว่า คนนิยมกินเยอะกว่า ได้กำไรมากกว่าด้วย…

ถ้าสมมติเกิดเหตุการณ์แบบนี้.. คุณจะทำเช่นไร ? จะไปต่อเส้นทางธุรกิจร้านกาแฟที่คุณตั้งใจ หรือจะหันเหไปทำธุรกิจที่คนใกล้ตัวคุณแนะนำ…

ซึ่งไม่มีผิดและไม่มีถูก มันอยู่ที่ใจคุณเอง ว่า จะตัดสินใจไปในเส้นทางไหน ซึ่งคุณต้องนำข้อมูล ความน่าจะเป็น มาศึกษาและประเมินหลาย ๆ อย่าง ว่าคุณจะยังแน่แน่ว หนักแน่น และยืนยันการตั้งเป้าหมายทำในสิ่งเดิมที่ตั้งใจไว้ หรือ.. จะเปลี่ยนความคิดทำสิ่งใหม่ 

คนที่ออกมาจาก Comfort Zone มีหลายคน… ที่ไม่ได้มีความพร้อมทั้งหมด 100% แต่พวกเขาส่วนใหญ่ ได้ศึกษาข้อมูล หาความรู้มาในระดับหนึ่งแล้ว.. 

บวกกับมี Passion ความชอบ ความถนัด องค์ความรู้ ความหลงใหล เป็นทุนเดิมติดตัว และพัฒนาตนเองตลอดเวลา ศึกษาหาความรู้เพิ่ม 

เมื่อมาถึงเวลาที่คิดว่า.. เหมาะสมที่สุด จึงได้ตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยวที่จะก้าวออกจากเซฟโซน เพื่อลงมือทำในสิ่งที่ตนเองชื่นชอบและเชี่ยวชาญ ชำนาญที่สุด แล้วค่อย ๆ ปรับปรุงแก้ไขกันไป

แล้วคุณล่ะ.. พร้อมแค่ไหน ? พร้อมหรือยัง ? ที่จะก้าวออกจาก Comfort Zone มาลงมือทำในสิ่งที่ความคิด และใจคุณปรารถนา.. ??