เมื่อวิกฤตสร้างโอกาส เส้นทางของ SUSHI & RAMEN FACTORY จากออฟไลน์ สู่ Delivery สุดปัง !!

ผู้บุกเบิกแฟรนไชส์ร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์ใหม่ เสิร์ฟอาหารรูปแบบฟิวชั่น (Fusion Food) ครบวงจรที่สุด - KAMLAI BY SUSHI & RAMEN FACTORY
ผู้บุกเบิกแฟรนไชส์ร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์ใหม่ เสิร์ฟอาหารรูปแบบฟิวชั่น (Fusion Food) ครบวงจรที่สุด

การทำธุรกิจ ป็นเรื่องธรรมดาที่ย่อมมีการแข่งขันกันตลอดเวลา มิหนำซ้ำท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจ และ COVID-19 กลับมาระบาดระลอกใหม่ในประเทศไทยเช่นนี้ สำหรับเจ้าของธุรกิจเอง นับเป็นมรสุมคลื่นลูกใหญ่ในการพิสูจน์หัวจิตหัวใจให้ก้าวข้ามผ่านปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ไปให้ได้อีกครั้ง
 
เช่นเดียวกับ KAMLAI BY SUSHI & RAMEN FACTORY ร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์ใหม่ เสิร์ฟอาหารรูปแบบฟิวชั่น (Fusion Food) ที่ปัจจุบันได้รับความนิยมและถูกพูดถึงบนโลกออนไลน์เป็นอันดับต้น ๆ รวมถึงธุรกิจอยู่ในช่วงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยขยายสาขาแฟรนไชส์ในรูปแบบ SHOP ที่ได้มาตรฐานทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด แต่ก็ต้องมะสะดุดเพราะ ‘พิษโควิด-19’
 
 
 
KAMLAI BY SUSHI & RAMEN FACTORY บริหารโดย คุณเปิ้ล - ณัฐธันยพร คณาธิปสกุลสิริ ซึ่งบุกเบิกธุรกิจแฟรนไชส์ร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์ใหม่ เสิร์ฟอาหารรูปแบบฟิวชั่น (Fusion Food) มีทั้งซูชิ , ราเม็งสไตล์ญี่ปุ่น และรสต้มยำกุ้งแบบไทย ๆ , เกี๊ยวซ่า, เกี๊ยวซ่าชีส , ทามาโกะไข่หวาน , ซีฟู้ดดอง และเมนูอื่น ๆ อีกมากมาย ได้อย่างลงตัวและครบวงจร ในราคาย่อมเยาไม่แพงอย่างที่คิด 
 
ตลอดจนพิสูจน์แล้วว่า ทั้งร้านต้นแบบ และสาขาแฟรนไชส์ ไม่ว่าจะเปิดทำเลพื้นที่ขายที่ไหนก็ขายได้ มียอดขายที่น่าประทับใจ จึงนับว่าเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นแนวใหม่ที่สร้างความแตกต่างเหนือคู่แข่ง และสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้าได้อย่างยอดเยี่ยม
 


โดยปัจจุบัน (ปี 2564) KAMLAI BY SUSHI & RAMEN FACTORY มีหน้าร้านจำนวน 2 แห่ง ได้แก่ สาขาแคราย พื้นที่ประมาณ 2 ไร่ ติดถนนใหญ่ ที่จอดรถสะดวกกว้างขวาง (เป็นร้านต้นแบบ, สำนักงานใหญ่ และครัวกลาง) และ สาขาสุขุมวิท (นานา) (ยังไม่นับรวมสาขาแฟรนไชส์ที่มีเปิดให้บริการไปแล้วทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด)
 
ย้อนกลับไปช่วงต้นปี 2563 ที่ผ่านมา ในขณะที่ธุรกิจกำลังเติบโตเป็นไปได้สวย แต่ก็ต้องมาหยุดชะงักเพราะ COVID-19 ซึ่งแน่นอนว่า ทุกธุรกิจ ทุกสาขาอาชีพต่างได้รับผลกระทบด้วยกันทั้งนั้น รวมถึง KAMLAI BY SUSHI & RAMEN FACTORY  ซึ่งยอดขายหน้าร้านหายไปกว่าครึ่ง สาเหตุจากการประกาศ ‘ล็อกดาวน์’ ทั่วประเทศ
 
ในขณะที่ธุรกิจทุกภาคส่วนและจำนวนมากต่างก็ได้รับผลกระทบมากน้อยต่างกันออกไป  โดยผู้ประกอบการหลายรายต่างยกธงขาวยอมแพ้ ต้องปิดกิจการลง บางรายต้องพยายามประคับประคองธุรกิจต่อไป ด้วยอาการทรง ๆ เจียนไปเจียนอยู่ 
 
สำหรับ คุณเปิ้ล - ณัฐธันยพร ก็ต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การทำตลาด และช่องทางการขายเช่นกันเพื่อทำให้ธุรกิจเดินต่อไปได้ โดยจากการให้บริการหน้าร้าน มาสู่ รูปแบบ Delivery 
 
โดยปัจจุบัน KAMLAI BY SUSHI & RAMEN FACTORY รุกตลาดออนไลน์เต็มรูปแบบ (แต่หน้าร้านก็ยังเปิดให้บริการลูกค้าเช่นเดิม) โดยผูกร้านกับแอปพลิเคชันสั่งอาหารชั้นนำของเมืองไทย ได้แก่ GrabFood , LINE MAN, foodpanda, Gojek, Robinhood เป็นต้น 
 



คุณเปิ้ล - ณัฐธันยพร  บอกว่า ปัจจุบันทางร้านมุ่งเน้นช่องทางการทำ Delivery จริงจังมากขึ้น ยอมรับว่า ทีแรกไม่ได้สนใจการทำ Delivery สักเท่าไหร่ แต่พอเจอผลกระทบจากวิกฤตโควิดฯ จึงได้เริ่มศึกษาและหันมาเข้าระบบการทำ Delivery อย่างจริงจัง

ซึ่งจากที่เริ่มต้นมีออร์เดอร์สั่งอาหารแค่หลักสิบรายต่อวัน ค่อย ๆ เพิ่มเป็น 100 รายต่อวัน เฉพาะที่สั่งผ่าน Delivery ในระยะเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งมันกลายเป็นโอกาสในวิกฤตจริง ๆ
 
ตัวอย่างวิกฤตโควิดฯ จึงกลายเป็นบททดสอบอย่างดี สำหรับผู้ประกอบการหลาย ๆ ท่าน รวมถึง คุณเปิ้ล - ณัฐธันยพร ในการพิสูจน์ ‘กึ๋น’ หรือ ‘วิสัยทัศน์’ รวมทั้งหัวใจว่า คุณเข้มแข็งพอที่จะก้าวข้ามอุปสรรคต่าง ๆ ที่จะถาโถมเข้ามาได้มากน้อยแค่ไหน 
 
ต้องบอกว่า ปี 2563 ที่เพิ่งผ่านมานี้ ร้านอาหารญี่ปุ่นในประเทศไทยได้ปิดตัวลงไปกว่า 700 แห่ง เฉพาะที่เกิดวิกฤตโควิดฯ และปัจจัยอื่น ๆ ก็เกี่ยวข้อง เช่น ผู้ประกอบการเลือกทำเลผิด และไม่รู้จักปรับเปลี่ยนเมนู และการให้บริการของร้าน จึงไม่ตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภค
 
ในยุคนี้ หากผู้ประกอบการ ไม่รู้จักปรับตัว หรือเปลี่ยนแปลงธุรกิจให้ล้อไปตามพฤติกรรมของกลุ่มลูกค้าตามยุคสมัย หรือถ้าวิสัยทัศน์ผู้บริหารคิดลบ มันจะทำให้แบรนด์ไปต่อไม่ได้ และพนักงานก็จะหมดกำลังใจ  ทุกอย่างมันจะ Failed ทั้งหมด แต่ถ้าค่อย ๆ ทดลองปรับเปลี่ยน อย่างเช่น การขาย Delivery ก็จะรู้เลยว่า มันเป็นช่องทางสร้างรายได้ให้กับเจ้าของร้านสำหรับในวิกฤตแบบนี้ซึ่งต้องทำ
 
 
ในตอนท้าย คุณเปิ้ล - ณัฐธันยพร ได้ฝากแบรนด์ร้านอาหารญี่ปุ่น รวมถึงฝากข้อคิดดี ๆ ถึงผู้ประกอบการ ในการทำธุรกิจในยุคนี้ ซึ่งอะไรก็เกิดขึ้นด้วยว่า..
 
“ส่วนตัว ก็ค่อย ๆ ปรับตัวจึงทำให้แบรนด์เดินหน้าต่อไปได้ด้วยการทำ Delivery เริ่มต้นจากการศึกษาออนไลน์ การปรับเปลี่ยนรูปภาพเมนูสินค้า การจัดวางเซตอาหาร และถ่ายรูปโพสต์ให้น่าสนใจ ลูกค้าก็จะเห็นเรามากขึ้นและทดลองสั่งของเรา และถ้าถูกใจก็จะกลายเป็นลูกค้าประจำของร้านในระยะยาว
 
ทั้งนี้ อยากฝากถึงคนที่ยังไม่เคยทานอาหารของ KAMLAI BY SUSHI & RAMEN FACTORY  หากท่านมีโอกาส ลองเปิดใจเข้ามาทานที่หน้าร้านของเรา หรือสาขาแฟรนไชส์ก็ได้ หรือทดลองสั่ง Delivery ก็ได้ผ่านทุกช่องทางแอปฯ ให้บริการรับ / ส่งอาหารชั้นนำ 
 
โดยอาหารของเรามีความหลากหลาย รสชาติแตกต่างจากร้านอื่น ๆ และมีความเป็นไทยส่วนหนึ่งด้วย อาหารรสชาติไม่เลี่ยน ที่สำคัญ ราคาจับต้องได้ ไม่แพงอย่างที่คิด
 
และสำหรับคนที่สนใจธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่น ส่วนตัวอยากบอกว่า มีหลายแบรนด์ในปัจจุบัน แต่สำหรับ KAMLAI BY SUSHI & RAMEN FACTORY เราได้ทดลองการบริหารจัดการมาหมดแล้ว ซึ่งเรามีประสบการณ์ วางรากฐานระบบที่เข้มแข็ง และเรา Adap วัตถุดิบรังสรรค์เมนูใหม่ ๆ อยู่เสมอ เพื่อให้เข้ากับเทรนด์การบริโภคของลูกค้า จึงขอให้มั่นใจได้ว่า ลงทุนกับเรา ต้องสำเร็จอย่างแน่นอน 

 
 

หากมองวิกฤตต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้  มันเป็นการสร้างโอกาสและท้าทาย ให้คุณได้ปรับเปลี่ยน ในการทดลองทำและเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ เช่น การตลาดออนไลน์ หรือช่องทาง Delivery มากขึ้น มันช่วยคุณได้เยอะ และถ้าหากคุณสามารถสร้างตัวเองได้ในวิกฤตแบบนี้ พอเวลาผ่านไป หลาย ๆ อย่างจะเริ่มดีขึ้น คุณจะยืนได้แข็งแรงกว่าคนอื่น เพราะคุณได้ผ่านจุดที่ยากลำบากที่สุดมาแล้วนั่นเอง”

รูปภาพ

เมื่อวิกฤตสร้างโอกาส เส้นทางของ SUSHI & RAMEN FACTORY  จากออฟไลน์ สู่ Delivery สุดปัง !!
เมื่อวิกฤตสร้างโอกาส เส้นทางของ SUSHI & RAMEN FACTORY  จากออฟไลน์ สู่ Delivery สุดปัง !!
เมื่อวิกฤตสร้างโอกาส เส้นทางของ SUSHI & RAMEN FACTORY  จากออฟไลน์ สู่ Delivery สุดปัง !!
เมื่อวิกฤตสร้างโอกาส เส้นทางของ SUSHI & RAMEN FACTORY  จากออฟไลน์ สู่ Delivery สุดปัง !!
เมื่อวิกฤตสร้างโอกาส เส้นทางของ SUSHI & RAMEN FACTORY  จากออฟไลน์ สู่ Delivery สุดปัง !!
1,327 คน

taokaecafe.com มีการใช้คุกกี้ อ่านเพิ่มเติม